CLICK TO VERIFY: This site uses a GlobalSign SSL Certificate to secure your personal information.

ผ่าตัดดึงหน้า

ต้องเทคนิค S-LOCK ที่ Someko 

ความสวยย้อนวัยที่แตกต่างอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า (FaceLift) เทคนิค S-LOCK กับ คุณหมอพีพี Someko

 

ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าย้อนวัย หันมุมไหนก็มั่นใจ ด้วยเทคนิค S-Lock ที่ Someko

 

เมื่ออายุเพิ่มขึ้นใบหน้าจะมีการหย่อนคล้อยมากขึ้นเรื่อยๆ เกิดจากโครงสร้างใบหน้าที่ทรุดตัวและเอ็นที่ยึดระหว่างผิวหนังและกระดูกบนใบหน้าเกิดความหย่อน ทำให้ผิวหน้าตกและคล้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก ใบหน้าจะดูมีอายุ สั่งเกตุได้จากหางตาตก หนังตาตก ร่องใต้ตาชัด ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก มุมปากตก กรอบหน้าไม่ชัด มีเหนียงเยอะขึ้น

 

ย้อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วย "ศัลยกรรมดึงหน้า" เทคนิค S-LOCK ที่ Someko

 

อัพเดทรายวันกับผลลัพธ์หลังดึงหน้าย้อนวัยที่ Someko ใช้ชีวิตลำบากมั้ย บวมช้ำแค่ไหน มาดูกัน!

 

กรณีที่ปัญหาความหย่อนคล้อยยังไม่มาก สามารถแก้ไขได้ด้วยการร้อยไหม หรือทำเลเซอร์ยกกระชับ เช่น Ulthera Hifu หรือ Thermage เพื่อกระตุ้นชันผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อให้เกิดการหดตัว กระตุ้นการสร้าง collagen จะช่วยให้ผิวแน่น เฟิร์ม กระชับขึ้นได้ แต่ในคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก (มักพบในคนไข้อายุ 40-45 ปี ขึ้นไป) เกิดจากเอ็นที่ทำหน้าที่ยึดระหว่างผิวหนังและกระดูกมีความหย่อน ทำให้ผิวหนังและส่วนต่างๆคล้อยตกลงมาอย่างชัดเจน หากต้องการแก้ไขปัญหานี้การทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า (Full FaceLift) จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี โดยอาจเลือกดึงเฉพาะบริเวณที่เรากังวลหรือดึงทั้งหน้ารวมไปถึงคอได้เช่นกัน 

 

ลักษณะใบหน้าที่เหมาะกับการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า (FaceLift)

 

ตำแหน่งในการดึงหน้า แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ

  1. หน้าผาก (Forehead Lift) : เน้นแก้ไขรอยย่นบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว ยกคิ้วที่ตกให้โก่งและได้ทรงสวยขึ้น
  2. ใบหน้าส่วนบน (Upper Face Lift / Temporal Lift) : เน้นแก้ไขปัญหาบริเวณขมับ หางคิ้วตก ทำให้ใบหน้าดูเศร้า ยกหางคิ้วให้สวย ดูสดใส 
  3. ใบหน้าส่วนกลางและล่าง (Middle and Lower Face Lift)
  4. คอ (Neck Lift)

 

FaceLift เทคนิค S-LOCK ล็อคความสวย ด้วยฝีมือคุณหมอพีพี Someko

 

ผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ ยกคิ้ว พร้อมดูดไขมันเหนียง ย้อนวันเด็กขึ้น 10 ปี+

 

คุณหมอพีพี Someko ให้คำแนะนำอย่างละเอียด เพื่อแก้ไขปัญหาให้คนไข้แบบตรงจุดและตอบโจทย์มากที่สุด

 

ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าย้อนวัย ควรแก้ไขทุกส่วนของใบหน้าที่มีปัญหาพร้อมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีความเป็นธรรมชาติ เช่น หากบริเวณใบหน้าตึงจากการดึงหน้า แต่ยังมีปัญหาหนังตาตกทำให้ตาดูเศร้าและมีอายุ ก็จะทำให้ผลลัพธ์หลังการดึงหน้าดูเด็กขึ้นไม่เต็มที่ (สำหรับตัวอย่างเคสนี้คุณหมอพีพีแนะนำ ดึงหน้า ดึงคอ ยกคิ้ว ร่วมกับดูดไขมันเหนียง)

 

คุณกุ้ง อายุ 52 ปี : ดึงหน้า ดึงคอ ตัดเหนียง ครบ 3 เดือน (หน้าตรง) กระเปาะแก้มหาย ร่องแก้มตื้น กรอบหน้าชัด

 

คุณกุ้ง อายุ 52 ปี : ดึงหน้า ดึงคอ ตัดเหนียง ครบ 3 เดือน (ด้านข้าง) เหนียงและหนังส่วนเกินทีคอหายไป

 

คุณกุ้ง อายุ 52 ปี : ดึงหน้า ดึงคอ ตัดเหนียง ครบ 3 เดือน (ด้านข้าง) กรอบหน้าชัด หน้าเรียวขึ้น เห็นคอและคางชัดขึ้น

 

คุณกุ้ง อายุ 52 ปี : รอยแผลหลังผ่าตัดดึงหน้า ซ่อนอยู่ตามแนวไรผมและขอบหู แผลเนียนกลืนไปกับผิว ส่วนรอยแผลจากการตัดเหนียงจะซ่อนอยู่ใต้คาง เป็นเส้นจางๆและกลืนไปกับผิว

 

ผ่าตัดยกคิ้ว (Direct Brow Lift) ที่ Someko แผลเนียนสวย พร้อมกับการออกแบบองศาคิ้วอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ดวงตาดูสดใสมากขึ้น (แผลอยู่ชิดแนวขนคิ้ว และจะจางลงเรื่อยๆ สามารถเขียนคิ้วทับหรือสักคิ้วทับได้) ในคนไข้บางรายสามารถแก้ไขปัญหาตาตกได้ด้วยการผ่าตัดยกคิ้วเพียงอย่างเดียว แต่ในบางรายอาจต้องทำร่วมกับการทำ Sub Brow Lift หรือ ทำตาสองชั้นร่วมด้วย ขึ้นกับลักษณะปัญหา

 

ผ่าตัดยกคิ้ว (Direct Brow Lift) ที่ Someko สามารถทำร่วมกับการผ่าตัดดึงหน้าในครั้งเดียวกันได้เลย

 

เทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า S-Lock ที่ Someko

เทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า S-Lock เป็นเทคนิคเฉพาะของ Someko ทำโดยศัลยแพทย์พลาสติกเฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งแพทย์จะทำการเคลียร์ผิวหนังทุกชั้นอย่างละเอียด และเข้าไปกระชับโครงสร้างใบหน้า 2 ส่วน คือ ชั้น SMAS (S- SMAS LOCK)  และ ชั้น SKIN (S - SKIN LOCK) ด้วยการ ตัด ยก เย็บ 5 ขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังจากผ่าตัดดึงหน้า

 

เทคนิค S-LOCK ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า 5 ขั้นตอน ยกกระชับ 2 ชั้น (ตัด ยก เย็บ)

 

S-SMAS LOCK แพทย์จะเข้าไปจัดการปรับแต่งชั้น SMAS (Superficial muscular aponeurotic system) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อพังผืดชั้นลึกที่เหนียวและหนาอยู่ระหว่างชั้นไขมันและชั้นกล้ามเนื้อ SMAS เป็นตัวแปรสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผิวหย่อนคล้อย โดยแพทย์จะทำการตัด SMAS ส่วนเกินออก และเย็บยึด SMAS ที่เหลือ เข้ากับเนื้อเยื่อฐานกระดูกบริเวณขมับ (temporal fascia) เพื่อดึงให้ผิวหน้ากระชับขึ้นจากด้านใน ทำให้ดึงได้เยอะกว่า ตึงกว่า และให้ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยลดแรงตึงของแผลที่ผิวหนังด้านนอกได้เป็นอย่างดี โอกาสในการเกิดแผลเป็นหรือคีลอยด์ที่ผิวชั้นนอนกจะลดลง เป็นการแก้ปัญหาเอ็ดยึดผิวหนังและกระดูกที่หย่อนได้อย่างตรงจุด

 

ผิวหนังส่วนเกินที่ถูกตัดออกมาในขั้นตอนที่ 4 ของการผ่าตัดดึงหน้า (S-SKIN LOCK)

 

S-SKIN LOCK แพทย์จะทำการตัดและตกแต่งผิวหนังชั้นนอกส่วนเกินออกในปริมาณที่เหมาะสมก่อนเย็บแผลติดกัน และซ่อนรอยแผลไว้ตามแนวหูตั้งแต่หน้าหูอ้อมไปหลังหู เมื่อแผลหายก็จะเนียนไปตามขอบหู ผิวหน้าชั้นนอกจะตึงขึ้น ริ้วรอยต่างๆตื้นขึ้น กรอบหน้าชัด ใบหน้าได้รูป ดูอ่อนกว่าไว
 

รอยแผลหลังผ่าตัดดึงหน้าที่ Someko ถูกซ่อนไว้อย่างดี ด้วยฝืมือการเย็บแผลที่ละเอียดปราณีตของศัยแพทย์พลาสติกผู้เชี่ยวชาญ (ผลลัพธ์หลังผ่าตัดดึงหน้า 45 วัน แผลเนียนมากๆ)

 

รอยแผลจากการผ่าตัดดึงหน้า จะถูกซ่อนอยู่ตามแนวไรผมและขอบใบหู ด้วยการเย็บแผลที่ละเอียดของศัลยแพทย์พลาสติกผู้เชี่ยวชาญ ประจำ Someko พร้อมกับเทคนิคผ่าตัดดึงหน้า S-LOCK ที่ทำการผ่าตัดดึงหน้ากระชับผิวถึง 2 ชั้น ช่วยลดแรงตึงของแนวแผลด้านนอก ทำให้แผลสวยและเนียนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปจะสังเกตุเห็นรอยแผลยากขึ้นเรื่อยๆ เป็นการซ่อนแผลได้เป็นอย่างดี 

 

สำหรับการดึงหน้าเทคนิค S-LOCK ที่ SOMEKO จะแตกต่างการดึงหน้าทั่วไป ที่ดึงเฉพาะผิวหนังชั้นนอก คือ

  1. การดึงหน้าแบบ Double S-LOCK สามารถดึงหน้าได้เยอะกว่า โดยคงความเป็นธรรมชาติอยู่ เป็นการดึงหน้าที่ครอบคลุมทั้งผิวชั้นในและผิวชั้นนอก และสามารถตัดผิวหนังส่วนเกินชั้นนอกออกได้เอยะกว่า การดึงหน้าที่ผิวชั้นนอกเพียงอย่างเดียว
  2. การดึงหน้าแบบ Double S-LOCK จะแก้ไขปัญหาเอ็นยึดหน้าหย่อนได้ตรงจุด หากดึงหน้าเฉพาะผิวชั้นนอกจะไม่ได้แก้ไขเรื่องของปัญหาเอ็นยึดหน้าหย่อน
  3. การดึงหน้าแบบ Double S-LOCK จะมีโอกาสการเกิดแผลเป็น แผลคีลอยด์ ที่ผิวหนังชั้นนอกน้อยกว่า เนื่องจากแรงตึงตัวของแผลเย็บที่ผิวชั้นน้อยจะน้อยกว่า
  4. การดึงหน้าแบบ Double S-LOCK ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่าการดึงหน้าเฉพาะผิวหนังชั้นนอก

 

หลังผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ ตัดเหนียง ครบ 3 เดือน

 

หลังผ่าตัดดึงหน้า-ดึงคอ ร่องแก้มตึ้นขึ้น ร่องน้ำหมากหายไป กรอบหน้าชัด คอตึง เหนียงหาย

 

หลังผ่าตัดดึงหน้า FaceLift (เทคนิค S-LOCK) กับคุณหมอพีพี Someko ถ่ายรูปมุมไหนก็มั่นใจ

 

ดึงหน้า ดึงคอ ดูดไขมันเหนียง สวยเป๊ะทุกมุม เด็กลง 10 ปี

 

ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดดึงหน้า

  1. ใส่ผ่ารัดหน้าตั้งแต่วันแรกหลังผ่าตัด และใส่ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน (ช่วง 7 วันแรกให้ใส่ตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากนั้น ให้ใส่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แนะนำว่าอย่างน้อย 10-12 ชั่วโมง/วัน) เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดใส่ต่อเนื่องจนครบ 6 เดือน อาจใส่เฉพาะเวลานอน
  2. หลังผ่าตัดดึงหน้า 7 วันแรก ให้ประคบเย็นบ่อยๆ และนอนหมอนสูง (ให้ระดับศีรษะอยู่เหนือหน้าอก) เพื่อลดอาการบวม
  3. หลังผ่าตัดดึงหน้า 7 วันแรก ให้พักผ่อนเยอะๆ ทำกิจกรรมเบาๆ (low activity)
  4. หลังผ่าตัดดึงหน้า 7 วันแรก แนะนำให้ทานอาหารอ่อนๆ เลี่ยงการทานอาหารที่แข็งหรือเหนียวและต้องบดเคี้ยวเยอะๆ เพื่อลดการเคลื่อนที่ของโครงหน้า
  5. ห้ามแผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม (สามารถเช็ดทำความสะอาดหน้าได้) หากต้องการสระผมสามารถสระผมได้โดยการลูบไม่ให้เกาที่หนังศีรษะ
  6. หลังผ่าตัด 1-2 วันแรก ให้ป้ายยาที่ทางคลินิกให้ไปเช้า-เย็น (ไม่ต้องล้างแผล)
  7. วันที่ 3 เข้ามาล้างแผลที่คลินิก และให้กลับไปล้างแผลต่อที่บ้านจนกว่าจะตัดไหม
  8. วันที่ 7 เข้ามาตัดไหมที่แผลบริเวณหน้าหู และเริ่มล้างหน้าได้หลังจากตัดไหม 
  9. วันที่ 14 เข้ามาตัดไหมที่แผลบริเวณหลังหู 
  10. หลีกเลี่ยงการส่องกระจกในช่วง 7-14 วัน แรก เพื่อลดความกังวล
  11. ทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ
  12. หลังจากสัปดาห์ที่ 2 ให้เริ่มทายาในกลุ่ม Silicone gel เพื่อช่วยให้รอยแผลเนียนมากยิ่งขึ้น
  13. สามารถกลับมาออกกำลังกายได้ตามปกติหลังจากผ่าตัดแล้ว 1 เดือน

 


คุณหมอพีพี Someko ดูแลคนไข้ผ่าตัดดึงหน้าทุกเคส ทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง ติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง

 

ผลลัพธ์หลังผ่าตัดดึงหน้ากับคุณหมอพีพี Someko จะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้าก็ดูเด็กขึ้น ย้อนวัยแบบเป็นธรรมชาติ

 

ดึงหน้าย้อนวัย เทคนิค S-Lock ครบ 5 เดือน

 

ข้อแนะนำเพิ่มเติมหลังผ่าตัดดึงหน้าเพื่อให้ผิวหน้ากระชับดูเด็กอย่างต่อเนื่อง

  1. ดูแลผิวหน้าด้วยโปรแกรมในกลุ่ม skin rejuvenation เช่น การทำ Fine skin program หรือ Venus lift เพื่อให้ผิวชั้นบนละเอียดและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น สามารถเริ่มทำได้ทันทีหลังจากตัดไหมเรียบร้อยแล้ว
  2. ทำเลเซอร์กลุ่มยกกระชับ เช่น Ulthera, Ultraformer iii หรือ So therma XL ทุก 6-8 เดือน เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดดึงหน้าอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น
  3. ปรับรูปหน้าเพิ่มเติมด้วยการฉีดฟิลเลอร์ หรือเติมไขมันหน้าเด็ก เพื่อแก้ปัญหาใบหน้าขาด Volume จะช่วยให้ใบหน้าดูเด็กมากยิ่งขึ้น

 

คนไข้ถามอะไรบ้าง ก่อนตัดสินใจดึงหน้า? กับ คุณหมอพีพี Someko

 

4 คำถามยอดฮิต ก่อนผ่าตัดดึงหน้า

คำถาม: อายุเท่าไหร่ถึงควรทำผ่าตัดดึงหน้า?

ไม่มีการกำหนดอายุตายตัว จะขึ้นกับปัญหาความย่อนคล้อยของใบหน้า หากมีความหย่อนคล้อยเยอะโดยที่วิธีการกระชับผิวแบบอื่นๆ เช่น การร้อยไหม การทำเลเซอร์ยกกระชับ ไม่ได้ตอบโจทย์การแก้ปัญหานี้ได้ดีเหมือนเดิมเลย แนะนำให้ทำการผ่าตัดดึงหน้าจะช่วยแก้เรื่องปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด โดยทั่วไปแล้วอายุเฉลี่ยของคนไข้ที่ทำการผ่าตัดดึงหน้า จะอยู่ที่ประมาณ 45 ปี ขึ้นไป

 

คำถาม: มีโรคประจำตัว สามารถทำการผ่าตัดดึงหน้าได้หรือไม่?

ขึ้นอยู่กับว่าโรคประจำตัวที่เป็นคือโรคอะไร ในกรณีที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไขมัน ความดัน หากสามารถควบคุมอาการของโรคได้ดี ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในเลือด และความดันของคนไข้อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ สามารถทำการผ่าตัดดึงหน้าได้ตามปกติ แต่สำหรับคนไข้บางกลุ่มที่ทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด แนะนำให้ปรึกแพทย์เจ้าของไข้ร่วมด้วยเนื่องจากอาจต้องหยุดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดก่อนการผ่าตัด

 

คำถาม: หลังผ่าตัดดึงหน้าแล้ว ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเข้าที่?

โดยปกติจะอยู่ที่ 1-3 เดือน หลังการผ่าตัด ขึ้นกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละเคส

 

คำถาม: ผ่าตัดดึงหน้าสามารถทำร่วมกับบริการอื่นๆได้หรือไม่

สามารถทำการผ่าตัดดึงหน้าร่วมกับศัลยกรรมอื่นๆพร้อมกันได้ไม่ว่าจะเป็น การทำตาสองชั้น ศัลยกรรมถุงใต้ตา ศัลยกรรมยกคิ้ว หรือเติมไขมันทั่วหน้า เป็นต้น และจะมีข้อดีคือไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นหลายรอบ และแก้ไขปัญหาใบหน้าแบบครบทุกจุดจะช่วยให้ใบหน้าดูเด็กมากยิ่งขึ้น

 

ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ ที่ไหนดี (Facelift and Necklift) อย่าเพิ่งตัดสินใจจนกว่าจะได้เข้าไปปรึกษากับศัลแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญนะคะ