Someko ยื่น 1 เรื่องจมูก เสริมจมูกใหม่ แก้จมูกพัง ทำแล้วต้องปังกว่าเดิม
กับ 3 เทคนิคเสริมจมูก ที่ออกแบบให้เหมาะกับปัญหาเฉพาะบุคคล
ทรงจมูกที่สวย ไม่ใช่ทรงจมูกที่โด่ง สโลป หรือปลายพุ่ง แต่ทรงจมูกที่สวยคือทรงจมูกที่เข้ากับใบหน้าของเรา มีสัดส่วนของความยาวจมูก องศาการไล่สโลป และลักษณะของปลายจมูกที่ลงตัวพอดีกับหน้าผาก หว่างคิ้ว ปาก และคาง หลังเสริมจมูก หรือแก้จมูกไปแล้ว ใบหน้าโดยรวมต้องดูดีขึ้น สวยขึ้น หล่อขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะมองมุมไหน
จมูกเนื้อน้อย ปรับทรงใหม่ได้ด้วยการเสริมจมูก เทคนิค SCT
จมูกผิดรูป แก้ไขจมูกใหม่พร้อมขูดสารเหลวออกด้วยเทคนิค SCT
การแก้ไขปัญหาเรื่องจมูก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูกใหม่ หรือการแก้จมูกจากที่เคยเสริมจมูกมาแล้ว แพทย์จะต้องมีความชำนาญ และมีความเข้าใจถึงเรื่องการออกแบบทรงจมูกให้เข้ากับรูปหน้า พร้อมกับการเลือกใช้เทคนิคในการทำจมูกที่เหมาะสม ตอบโจทย์กับสิ่งที่คนไข้ต้องการ และสามารถแก้ไขปัญหาให้กับคนไข้ได้อย่างตรงจุด เพื่อเป็นการเสริมจมูกเด่น และแก้ไขจุดด้อยบนใบหน้าอย่างแท้จริง
เสริมจมูกใหม่ เทคนิค SCT เข้ากับรูปหน้า เป็นธรรมชาติ
เสริมจมูกเทคนิค SCT พร้อมปรับโหงวเฮ้ง
สำหรับเทคนิคหลักในการเสริมจมูก ที่ Someko แบ่งตามวิธีการเปิดแผล จะมี 3 เทคนิค ด้วยกัน คือ
- การเสริมจมูกแบบ close (เทคนิคพิเศษของ Someko ชื่อเทคนิค SCT)
- การเสริมจมูกแบบ semi-open
- การเสริมจมูกแบบ open
ซึ่งในแต่ละเคสจะต้องเสริมจมูกด้วยเทคนิคไหนนั้น แพทย์จะประเมินจากปัญหาของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญ
การเสริมจมูก close
การเสริมจมูกแบบ close จะมีการเปิดแผลที่รูจมูก 1 ข้าง และเสริมซิลิโคนจมูกเข้าไปตามแนวฐานกระดูกจมูกเดิม พร้อมกับเทคนิคการตะไบเพื่อปรับแต่งฐานจมูกเล็กน้อย รวมถึงเทคนิคการแต่งปลายจมูกเพิ่มเติมเพื่อปลายจมูกที่ละมุมสวย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีพื้นฐานจมูกดีอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาโครงสร้างจมูก เนื้อปลายจมูกมีความหนาพอเหมาะ ซึ่งเทคนิคเฉพาะของ someko ในการเสริมจมูกแบบ close คือ เทคนิค SCT
ลักษณะการเปิดแผล ของการเสริมจมูกแบบ close
จุดสำคัญที่สุดของการเสริมจมูกแบบ close คือ เทคนิคในการเหลาแต่งทรงซิลิโคนจมูก และตำแหน่งในการวางซิลิโคน เนื่องจากโครงสร้างจมูกของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
ซิลิโคนเหลาขึ้นรูปใหม่ทุกเคส ให้พอดีกับโครงสร้างจมูกแต่ละคน
การเหลาแต่งซิลิโคนจมูก : ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ของ Someko เลือกใช้ซิลิโคนแบบเหลาขึ้นรูปใหม่เคสต่อเคส จะไม่มีการใช้ซิลิโคนแบบสำเร็จรูปในการเสริมจมูกเลย โดยเหลาซิลิโคนใหม่จากซิลิโคนแท่งสี่เหลียม จนได้เป็นซิลิโคนที่พอดีกับโครงสร้างของจมูกเคสแต่ละเคสจริงๆ เพื่อให้วางได้แนบสนิทกับฐานกระดูกเดิม พร้อมกับได้ทรงจมูกที่สวยเข้ากับรูปหน้า ปลายจมูกไม่ตึงจนเกินไปเพื่อป้องกันปัญหาจมูกทะลุ หรือปลายจมูกบาง ซิลิโคนทุกแท่งแพทย์จะมีการเหลาเพื่อ customize ให้เหมาะกับแต่ละเคสมากที่สุด
เหลาซิลิโคนใหม่จนกว่าจะพอดี ไม่ใช้ซิลิโคนสำเร็จรูป
และสำหรับชนิดของซิลิโคนที่ Someko เลือกใช้จะเป็นซิลิโคน medical grade จาก USA สำหรับใช้ทางการแพทย์โดยเฉพาะ เป็นวัสดุแบบเดียวกับที่ใช้ในการทำลิ้นหัวใจเทียม ได้รับการรับรองจาก US FDA และองค์การอาหารและยาของประเทศไทย จึงมีความปลอดภัยสูง และสามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต
โครงสร้างจริงของกระดูกในจมูก
ตำแหน่งในการวางซิลิโคนจมูก : ซิลิโคนจมูกจะต้องวางอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ถูกต้อง นั่นคือใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก เพื่อล็อคซิลิโคนให้อยู่แนบแน่นสนิทกับฐานจมูกเดิม ลดโอกาสในการเกิดปัญหาซิลิโคนลอย และจมูกเบี้ยวเอียงหลังจากการเสริมจมูก ซึ่งการที่จะวางซิลิโคนจมูกให้อยู่ในตำแหน่งนี้ได้แพทย์จะต้องมีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญสูงในการเลาะเนื้อเยื่อเพื่อสร้างโพรงสำหรับวางซิลิโคน
รูปแสดงการวางซิลิโคนจมูกในตำแหน่งที่ถูกต้อง
รูปแสดงการวางซิลิโคนจมูกในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง
ซึ่งในการเสริมจมูกแบบ close นี้ แพทย์มักจะทำร่วมกับเทคนิคการแต่งปลายจมูกแบบพิเศษ เพื่อปรับให้ปลายจมูกมีความยาวและละมุนมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเนื้อปลายจมูกบางได้เป็นอย่างดี ซึ่งเทคนิคในการแต่งปลายจมูกที่ someko จะมีทั้งหมด 3 เทคนิคด้วยกัน
เทคนิคการแต่งปลายจมูก 3 แบบ ที่ someko
เทคนิคการแต่งปลายจมูกที่ someko
1. แต่งปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ (dermofat graft) : จะเป็นการเปิดแผลบริเวณก้นกบ ขนาดประมาณ 1-2 ซม. เพื่อตัดเนื้อเยื่อตรงก้นกบออกมา และนำมาตัดแต่งด้วยเทคนิคเฉพาะของทีมแพทย์ Someko ให้ได้ขนาดและรูปทรงที่ต้องการ โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำ ก่อนจะทำไปเติมที่ปลายจมูก เพื่อเพิ่มความยาวให้ปลายจมูก ทำให้ปลายจมูกละมุนขึ้น ซึ่งข้อดีของเนื้อเยื่อก้นกบคือเป็นการใช้เนื้อเยื่อของเราเอง ทำให้มีความเป็นธรรมชาติสูง เนื้อเยื่อก้นกบจะเรียบเนียนไปกับเนื้อจมูกของเราโดยไม่เห็นเป็นขอบรอยต่อใดๆ ทำให้ได้ทรงจมูกที่สวย เนียน มีมิติ และลดโอกาสเสี่ยงของการทะลุได้เป็นอย่างดี และแผลที่ก้นกบจะมีขนาดเล็กมากและจะถูกซ่อนอยู่ใต้ร่มผ้า ซึ่งเทคนิคการแต่งปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อก้นกบนั้นเป็น signature technique ของ ทีมแพทย์ someko
ลักษณะของแผลที่ก้นกบ
2. แต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู : จะเป็นการเปิดแผลที่บริเวณหลังหู ขนาดประมาณ 1-2 ซม. เพื่อทำการเลาะเอากระดูกอ่อนบริเวณหลังหูออกมา และทำการเย็บปิดแผลอย่างปราณีต ซ่อนแผลไว้ที่รอยต่อด้านหลังหู และจะนำกระดูกอ่อนที่ได้มาตัดแต่งให้ได้ขนาดและรูปทรงที่ต้องการ เพื่อทำไปเติมที่ปลายจมูก ซึ่งข้อดีของการแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหูคือเป็นเนื้อเยื่อของเราเอง และทำให้ได้ปลายจมูกที่ยาวและพุ่งมากกว่าการใช้เนื้อเยื่อก้นกบ แต่ก็จะมีข้อจำกัดคือคนไข้จะต้องมีเนื้อปลายจมูกที่หนาพอสมควร หากคนไข้มีเนื้อปลายจมูกที่บางและทำการแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหูอาจทำให้เห็นขอบของกระดูกอ่อนได้
ลักษณะของแผลที่หลังหู
3. แต่งปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม : เนื้อเยื่อเทียม คือ วัสดุสังเคราะห์ที่เลียนแบบมาจากเนื้อเยื่อของมนุษย์ สำหรับใช้ทางการแพทย์โดยตรง ผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัย นิยมใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งในเคสแผลไฟไหม้แบบลึก หรือในเคสอุบัติเหตุที่มีการสูญเสียเนื้อเยื่อผิวหนังเป็นบริเวณกว้าง ในแง่ของการเสริมจมูก เนื้อเยื่อเทียมจะถูกทำมาใช้ในการตกแต่งปลายจมูก เพื่อเพิ่มความหนาของเนื้อจมูก ทำให้ปลายจมูกยาวและสวยยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการใช้เนื้อเยื่อก้นกบ จะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการเปิดแผลบริเวณอื่นๆเพิ่มเติม
ลักษณะของเนื้อเยื่อเทียม
ผลลัพธ์หลังเสริมจมูกแบบ close ด้วยเทคนิค SCT
เสริมจมูก semi-open
การเสริมจมูกแบบ semi-open จะมีการเปิดแผลที่รู้จมูกทั้ง 2 ข้าง และเสริมซิลิโคนจมูกเข้าไปตามแนวฐานกระดูกจมูกเดิมเช่นเดียวกับการเสริมจมูกแบบ close แต่การเปิดแผลในรูปจมูกทั้งสองข้างจะช่วยลดแรงตึงในจมูกได้ดี แพทย์จะเห็นโครงสร้างจมูกได้มากกว่าการเปิดแผลแบบ close ทำให้แพทย์สามารถสร้างโพรงสำหรับวางซิลิโคนในจมูกได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ลดโอกาสการเบี้ยวเอียงของซิลิโคน ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ และนอกจากนี้การเสริมจมูกแบบ semi-open ยังสามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกบางส่วนได้ คือ
- แพทย์สามารถทำการตอกฐานจมูกได้ เหมาะสำหรับคนที่มีฐานจมูกกว้างไม่มากนัก และต้องการให้จมูกเรียวเล็กขึ้น
- แพทย์สามารถทำการตะไบตกแต่งฐานจมูกได้อย่างทั่วถึง มากกว่าการเสริมจมูกแบบ close
- แพทย์สามารถทำการเย็บ interdome เพื่อทำให้ปลายจมูกเรียวและพุ่งได้มากขึ้น
ลักณะการเปิดแผลของการเสริมจมูก semi-open
ซึ่งในการเสริมจมูกแบบ semi open นี้ สามารถทำร่วมกับเทคนิคการแต่งปลายจมูกได้เช่นเดียวกับการเสริมจมูกแบบ close โดยอาจทำการแต่งปลายจมูกด้วย เนื้อเยื่อก้นกบ กระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อเทียมได้เช่นกัน
ผลลัพธ์หลังตอกฐานจมูก ปรับให้ฐานจมูกเรียวเล็ก
ผลลัพธ์หลังตอกฐานจมูก ปรับให้ฐานจมูกเรียวเล็ก
ตอกฐานจมูก พร้อมแก้จมูก ด้วยเทคนิค secret open
ลักษณะของรูปจมูก และปลายจมูกที่เปลี่ยนไป หลังเย็บ interdome
ความเปลี่ยนแปลงทันที หลังแก้จมูก semi-open พร้อมเย็บ interdome
แต่สำหรับคนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อนกว่านี้ เช่น ผนังกั้นห้องจมูกคด ปลายจมูกสั้นมากๆ จมูกมีฮัมพ์ที่สูงมาก ฐานจมูกกว้างมาก ปลายจมูกใหญ่ ลักษณะแบบนี้จะต้องทำการแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกด้วยการเสริมจมูกแบบ open
ผลลัพธ์หลังการเสริมจมูก ด้วยเทคนิค semi-open
เสริมจมูก open
การเสริมจมูกแบบ open จะเป็นการผ่าตัดเปิดแผลที่ฐานจมูก เพื่อให้สามารถแยกเนื้อจมูกออกทำให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างจมูกภายในทั้งหมดได้ เหมาะกับคนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อน ไม่สามารถเสริมจมูกด้วยการเสริมจมูกแบบ close หรือ semi-open ได้
ลักษณะการเปิดแผลจมูกของการทำจมูก open
เช่น โครงสร้างจมูกคด ฐานจมูกใหญ่ ปลายจมูกโต ปลายจมูกงุ้ม จมูกสั้นมากๆแต่ต้องการให้ปลายจมูกยาวขึ้น ต้องการให้ทรงจมูกเปลี่ยนมากๆ และนอกจากปัญหาด้านโครงสร้างแล้ว ในกรณีที่เคยฉีดสารเลว เคยฉีดซิลิโคนเหลวมาก่อน และต้องการแก้ไข การแก้จมูกแบบ open จะทำให้แพทย์เห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมดอย่างชัดเจน และสามารถขูดเอาสารแปลกปลอมที่เคยฉีดไปออกมาได้ดีกว่าการแก้จมูกแบบ close หรือ semi-open
ผลลัพธ์หลังการแก้ไขโครงสร้างจมูกด้วยเทคนิค secret open